1. ฉีดตามจุดชีพรต่างๆ : เช่น ข้อมือ, ข้อพับแขน, ข้อพับขา หรือบริเวณซอกคอใต้ใบหู ก็เพราะความอุ่นจากการหมุนเวียนของเลือดใต้ผิวหนัง บวกกับอัตราการเต้นของชีพจร จะเป็นตัวช่วยดูดซับความหอมไว้ใต้ผิวหนัง ทำให้กลิ่นของน้ำหอมฟุ้งกระจายได้ดีมากกว่าการทาบริเวณอื่น
2. ทาโลชั่นก่อนฉีดน้ำหอม : ควรใช้โลชั่นที่ไม่มีกลิ่นจะดีกว่า เช่น วาสลีน ทาลงบนผิวก่อนฉีดหรือแต้มน้ำหอม ก็จะช่วยให้น้ำหอมติดทนนานยิ่งขึ้น เพราะกลิ่นจะติดทนบนผิวมันมากกว่าผิวแห้ง สำหรับสาวผิวแห้งวิธีนี้เวิร์คมากค่ะ
3. ฉีดน้ำหอมในอากาศ : วิธีนี้เหมาะสำหรับน้ำหอมที่มีกลิ่นติดทนนานประเภท Eau de parfum นะคะ (นํ้าหอมที่มีส่วนผสมของหัวน้ำหอมมากที่สุด) โดยการฉีดน้ำหอมใส่อากาศข้างหน้าตัวเอง โดยให้ห่างประมาณ 6 นิ้ว จากนั้นรีบเดินผ่านให้ละอองน้ำหอมติดตัวทั่วรางกาย จะช่วยให้กลิ่นหอมธรรมชาติไม่ฉุนมาก และติดทนนานอีกด้วย
4. ฉีดน้ำหอมลงบนแปรงแล้วหวี : ทริคง่ายๆ ให้คุณฉีดน้ำหอมลงบนแปรงก่อนแล้วค่อยหวีให้ทั่ว นอกจากจะช่วยให้น้ำหอมติดทนนานยิ่งขึ้นแล้ว ยังช่วยปกป้องเส้นผมไม่ให้ไสัมผัสกับแอลกอฮอล์จากน้ำหอมโดยตรงอีกด้วย
5. ฉีดหลังอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ : หลังจากการอาบน้ำนั้นผิวหนังของเราจะมีความชื้น ทำให้ดูดซึมได้ดีกว่า เหมือนการทาสกินแคร์บำรุงผิวหน้าหลังจากการล้างหน้าเสร็จนั่นเอง ดังนั้นหากคุณอาบน้ำก่อนนอนแล้วฉีดน้ำหอมลงไปบนผิวกาย ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้น้ำหอมนั้นติดทนยาวนานขึ้น และได้กลิ่นน้ำหอมที่คงเดิมที่สุด
6. ฉีดน้ำหอมที่ผ้าก่อนรีด : หากอยากให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมเหมือนกลิ่นกายละก็ ทริคง่ายๆ ทำได้โดยการใช้น้ำหอมพรมหรือฉีดในปริมาณเล็กน้อยลงบนเสื้อผ้า แล้วรีดทับ ความร้อนจะช่วยให้กลิ่นน้ำหอมติดอยู่ในเนื้อผ้ายาวนานขึ้น (ควรระวังผ้าที่มีสีขาว อาจจะเป็นคราบน้ำหอม)